เมนู

เป็นต้นเหตุดังนี้ สมณะและพราหมณ์ทั้งหลายนั้นย่อมแล่นล่วงสิ่งที่ตนรู้แล้วเอง และสิ่งที่เขา
สมมุติว่าเป็นของจริงในโลกเสีย เพราะเหตุนั้น เราผู้ตถาคตจึงกล่าวว่า ความเห็นของสมณะ
และพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นผิดเป็นมิจฉาทิฐิดังนี้ สมเด็จพระบรมศาสดาโปรดประทานไว้ใน
สังยุตตนิกายฉะนี้ มหาราช ขอถวายพระพร สมเด็จพระพิชิตมารเจ้าเผาเสียซึ่งอกุศลสิ้นไป
ไม่มีเศษ จึงได้สำเร็จพระสัพพัญญุตญาณ จะได้เสวยเวทนาเกิดแต่กรรมวิบากทั้งสิ้นนั้นหามิได้
ธาเรหิ พระองค์จงทรงพระทัยดุจนัยที่วิสัชนามานี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชาเฉลิมกษัตริย์ มีพระราชโองการตรัสว่า สาธุ สาธุ สมฺ-
ปฏิจฺฉามิ
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ตามที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวมานี้ดีนักหนา โยมจะรับคำของพระผู้
เป็นเจ้าจำไว้ในบัดนี้
ภควโต นิรวเสสํ อกุสลํ เฉตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปตฺตปญฺหา
สัพพัญญุตังปัตตปัญหา คำรบ 8 จบเพียงนี้

ตถสคตัสส อุตตริกรณียาภาวปัญหา ที่ 9


ราชา

สมเด็จพระบรมกษัตริย์นรินทร์มิลินทราช มีพระราชโองการประภาษถาม
ปัญหาต่อไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา พระผู้เป็นเจ้าจงกล่าวให้วิตถาร
ออกซึ่งคำสองประการนี้ คำหนึ่งว่า สมเด็จพระพิชิตมารมุนีกระทำซึ่งกิจทั้งปวงให้สำเร็จ
แล้วที่ควงไม้พระมหาโพธิเป็นอันเสร็จสิ้น กิจที่ต้องทำหรือต้องอบรมยิ่งขึ้นไปไม่มีแก่พระองค์อีก
คำหนึ่งว่า สมเด็จพระมุนีนาถเจ้า เมื่อได้ตรัสรู้แก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณแล้ว เข้าสู่ฌาน
สิ้นไตรมาสสามเดือนดังนี้ โยมพิเคราะห์ดูเห็นว่า ถ้าพระสัพพัญญูกระทำกิจทั้งปวงให้สำเร็จแล้ว
ที่ควงไม้มหาโพธิเป็นอันเสร็จสิ้น ไม่มีกิจที่จะต้องทำและต้องอบรมยิ่งขึ้นไปอีก คำที่ว่าพระองค์
เข้าฌานสิ้นไตรมาสสามเดือน ก็จะผิดเป็นมิจฉา ถ้าเชื่อว่าพระองค์เข้าฌานสิ้นไตรมาสสามเดือน
คำที่ว่าพระองค์กระทำกิจนั้นปวงให้สำเร็จแล้วที่ควงไม้มหาโพธิเป็นอันเสร็จสิ้น ก็จะผิด คำทั้ง
สองนั้นเป็นปฏิปักษ์แย้งกันอยู่ฉะนี้ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา เหมือนคนหนึ่ง
ว่าคนที่พยาธิป่วยไข้ ก็จำเป็นมีความต้องการด้วยยาเพื่อรักษาโรคบำบัดให้หาย คลี่คลายไป
คนที่ไม่ป่วยไข้จะต้องการอะไรด้วยหยูกยา อนึ่ง คนที่หิวจึงต้องการรับประทานโภชนะ ของเคี้ยว
ของกัด คนที่ไหวหิวหาต้องการรับประทานโภชนาหารไม่ ยถา อันนี้อุปมาฉันใด เอวเมว โข